Menu
เมนูอาหาร
เมนูสาขา รพ.จุฬา (ครัวชั่วคราว-นางลิ้นจี่)
และมหิดล ศาลายา
Menu book for the Chula Hospital branch (Temporary Cookery - Nanglingee)
and Mahidol Salaya branch
Menu
Menu book for the Chula Hospital branch (Temporary Cookery - Nanglingee)
and Mahidol Salaya branch
Delivery
083-239-6566
085-414-6966
หลายๆท่านอาจจะเคยลดน้ำหนักด้วยวิธีการกินผลไม้อย่างเดียว หรือทานผลไม้มากขึ้น เพื่อต้องการที่จะควบคุมแคลอรี่ และหวังที่จะได้รับใยอาหารหรือวิตามินและเกลือแร่ แต่ทำไมกินผลไม้ตั้งเยอะแล้วน้ำหนักยังไม่ลดสักที แถมบางครั้งน้ำหนักกลับเพิ่มขึ้นอีก
หลายๆท่านอาจจะเคยลดน้ำหนักด้วยวิธีการกินผลไม้อย่างเดียว หรือทานผลไม้มากขึ้น เพื่อต้องการที่จะควบคุมแคลอรี่ และหวังที่จะได้รับใยอาหารหรือวิตามินและเกลือแร่ แต่ทำไมกินผลไม้ตั้งเยอะแล้วน้ำหนักยังไม่ลดสักที แถมบางครั้งน้ำหนักกลับเพิ่มขึ้นอีก
ถึงแม้ว่าผลไม้จะมีพลังงานต่ำ ไขมันต่ำ มีใยอาหารและวิตามิน แต่มีอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามไปก็คือ
“น้ำตาล” ซึ่งน้ำตาลนี้เองจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้รับพลังงานมากเกินความต้องการหากทานในปริมาณมากเกิน และอาจสะสมกลายเป็นไขมัน นอกจากนี้หากได้รับน้ำตาลจากผลไม้เข้าสู่ร่างกายมาก อาจมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในร่างกายสูงขึ้นและมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานได้อีกด้วย
ผลไม้นั้นมีคุณประโยชน์มาก หากรับประทานในปริมาณพอดี โดยผลไม้หลายๆชนิดมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่ร่างกายต้องการเพื่อใช้ในการรักษาระบบในร่างกายให้มีความสมดุล มีใยอาหารสูงจึงมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ยังมีส่วนช่วยในการลดการดูดซึมระดับน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดและลดการดูดซึมระดับไขมันและคอเลสเตอรอลได้ นอกจากนี้ในผลไม้ยังมีสารพฤกษเคมี มีผลทำให้ลดสารอนุมูลอิสระ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายได้ เราจึงควรรับประทานผลไม้ให้หลากหลายเพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน ผลไม้แต่ละชนิดมีปริมาณน้ำตาลที่แตกต่างกัน โดยผลไม้ 1 ส่วน มีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 15 กรัม หรือคิดเป็นพลังงาน 60 กิโลแคลอรี่ ซึ่งปริมาณ 1 ส่วนของผลไม้แต่ละชนิดจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตาลในผลไม้นั้นๆ ปริมาณที่แนะนำคือ 2-3 ส่วนต่อวัน
สตรอเบอร์รี่
แอปเปิ้ล
ฝรั่ง
เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ได้รับคุณประโยชน์จากผลไม้ และไม่ต้องกังวลว่าน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นจากการรับประทานผลไม้ด้วยค่ะ