ร้านอาหารมังสวิรัติ Vegan อร่อยที่สมอง อิ่มที่หัวใจ ห่างไกลความเจ็บป่วย
เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น โดยธรรมชาติของร่างกายแล้ว มักจะพบว่ามีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง สาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น มีการอักเสบเรื้องรังภายในร่างกายเพิ่มขึ้น หรือ การสร้าง T-cells ที่น้อยลง ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง ซึ่งภาวะที่ร่างกายอ่อนแอลงตามอายุ หรือ “Biological age” ที่จะเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่กำหนด อายุขัย หรือ ลักษณะแสดงทางร่างกายจะออกมาเป็นเช่นไร หรือ แม้แต่ความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ นอกจานี้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะแข็งแรงหรืออ่อนแอนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชั่น หรือ คือภาวะที่มีอนุมูลอิสระในร่างกายมากเกินไปด้วยเช่นกัน อนุมูลอิสระนั้นเกิดขึ้นได้จากทั้งปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ แอลกอฮอล์ ควันบุหรี่ และอาหารบางชนิด โดยเฉพาะ อาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำๆ และ เกิดจากระบบเผาผลาญภายในร่างกายเอง แต่เมื่อใดที่ระบบสมดุลการจัดการกับอนุมูลอิสระนี้ทำงานได้ไม่ดีเต็มประสิทธิภาพเท่าเดิม หรือเกิด Oxidative Stress ก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายได้แล้ว ทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเกี่ยวกับระบบประสาท หรือ โรคเบาหวาน เป็นต้น
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด รายงานว่าการที่เราจะสามารถมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้ จะต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการงดสูบหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายเป็นประจำ การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ฝึกเรียนรู้วิธีที่จะผ่อนคลายความเครียด และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เน้นอาหารจากพืช ที่มีสารพฤษเคมี มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอ
อาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ผลไม้ตระกูลส้มและมะนาว เป็นแหล่งของวิตามินซีที่ดี เนื่องจากวิตามินซีสามารถที่จะช่วยเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนหนึ่งในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพ
- พริกหยวก เป็นอีกแหล่งที่วิตามินซีสูง ไม่แพ้ผลไม้อื่นๆ และที่สำคัญยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ เบต้าแคโรทีน ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ช่วยบำรุงผิวและดวงตาให้มีสุขภาพดี
- บล็อคโคลี่ เป็นผักที่มีวิตามินหลากชนิด ทั้ง A,C และ E ที่ล้วนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี และยังมีใยอาหารสูง ซึ่งการบริโภคใยอาหารที่มากเพียงพอ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังได้
- เห็ด มีสารเบต้ากลูแคน ที่มีความสามารถในการเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิต้านทานในร่างกาย
- กระเทียม นอกจากฤทธิ์ที่สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้แล้ว สารอะลิซิน (Allicin) ในกระเทียมยังช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิค้มกันในร่างกาย
- ขิง สามารถช่วยลดภาวะการอักเสบในร่างกายได้ ซึ่งอาจทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
- ผักใบเขียวเข้ม จะมีวิตามินซีสูง พร้อมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยลดภาวะติดเชื้อ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- เมล็ดทานตะวัน หรือ ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ ที่มีวิตามินอีสูง ที่ช่วยรักษาระบบภูมิคุ้มกันและช่วยต้านอนุมูลอิสระได้เป็นแย่างดี
- ชาเขียว อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้ง EGCG ที่สามารถช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข้งแรง
- ขมิ้น สมุนไพรอย่างขมิ้นที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์นี้ คุณสมบัติเด่นคือ มีสารเคอคูมินที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านการอักเสบในร่างกาย
- อาหารที่มีโพรไบโอติกส์ เช่น เทมเป้ นัตโตะ มิโซะ กิมจิ เป็นต้น โพรไบโอติกส์ที่มีจุลินทรีย์ที่ดีเหล่านี้นอกจากจะมีประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายและการย่อยแล้ว ยังสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันในลำไส้และทั้งระบบในร่างกาย
แหล่งอ้างอิง
- Csaba, G. (2019). Immunity and longevity. Acta microbiologica et immunologica Hungarica, 66(1), 1-17. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/29968490
- Alonso-Fernández, P., & De la Fuente, M. (2011). Role of the immune system in aging and longevity. Current aging science, 4(2), 78-100.
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/21235494 - Akramienė, D., Kondrotas, A., Didžiapetrienė, J., & Kėvelaitis, E. (2007). Effects of ß-glucans on the immune system. Medicina, 43(8), 597.
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/17895634 - https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/how-to-boost-your-immune-system