Menu
เมนูอาหาร
เมนูสาขา รพ.จุฬา
และมหิดล ศาลายา
Menu book for the Chula Hospital branch
and Mahidol Salaya branch
เมนูสาขาอารีย์
Menu book for the Aree branch
Menu
Menu book for the Chula Hospital branch
and Mahidol Salaya branch
Menu book for the Aree branch
Delivery
082-495-6966
083-239-6566
085-414-6966
ร่างกายคนเรามีแร่ธาตุที่สำคัญมากมาย 1 ในนั้นก็คือ ธาตุเหล็ก (Iron) เราจะพาทุกคนไปรู้จักกันว่าเจ้าแร่ธาตุตัวนี้มีความสำคัญ และจำเป็นกับร่างกายของเรายังไง ไปหาคำตอบกันเลยย ^^ ธาตุเหล็ก ความสำคัญของธาตุเหล็ก อยู่ในโครงสร้างของฮีโมโกลบินซึ่งทำหน้าที่นำออกซิเจน ไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อยู่ในเอนไซม์ที่ใช้ในกระบวนการสร้างพลังงาน มีบทบาทในการทำงานของสมอง และ การพัฒนาของทารกในครรภ์ เป็นองค์ประกอบของเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับความสามารถ ในการทำงานของร่างกาย ได้แก่ พัฒนาการและการเรียนรู้ สมรรถภาพในการทำงาน ภูมิต้านทานโรค และหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์ รูปแบบธาตุเหล็กในอาหาร แบ่งได้ 2 ประเภท…
เทมเป้โฮมเมด จากต้นกล้า ฟ้าใส เอาใจคนรักเทมเป้ สายสุขภาพ ที่ต้องการโปรตีนจากพืช พร้อมธาตุเหล็ก และวิตามิน B12 เทมเป้ ออร์แกนิค by ต้นกล้าฟ้าใส เทมเป้หนึ่งในสุดยอดแหล่งโปรตีนจากพืช มีโปรตีนสูงเทียบเท่าอกไก่และปลอดภัยจากฮอร์โมนหรือยาปฏิชีวนะจากขบวนการเลี้ยงสัตว์ แถมยังมีใยอาหาร และโพรไบโอติกส์ ช่วยปรับสมดุลของลำไส้และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เทมเป้คืออะไร? เทมเป้คือก้อนโปรตีนที่เกิดจากการนำถั่วเหลืองมาหมักกับหัวเชื้อจุลินทรีย์ดี ทำให้เชื้อได้เชื้อจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่ดี ช่วยในการปรับสมดุลแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร ป้องกันแบคทีเรียตัวร้าย และช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง เทมเป้มีประโยชน์อย่างไร? – มีโปรตีนสูง เทียบเท่าอกไก่ 100กรัม…
วิตามินบี 12 วิตามินที่ผู้ทาน Plant – Based หลายคนถามถึง การทานอาหารมังสวิรัติหรือวีแกนตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แต่ผู้ที่ทานส่วนมากร่างกายมักจะขาด วิตามินบี 12 เป็นส่วนใหญ่ วันนี้เราเลยนำข้อมูลดีๆ มาฝากว่า วิตามินบี 12 ดีอย่างไร สามารถหาได้จากไหน และถ้าขาดไปแล้วจะทำให้เกิดโรคอะไรตามมาบ้าง … สามารถติดตามชมรายละเอียดต่อได้ทาง facebook live : วิตามิน เป็นหนึ่งในสารอาหาร 5 หมู่ที่ช่วยให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายเป็นไปตามปกติ ต้องการในปริมาณน้อย แต่ร่างกายขาดไม่ได้…
มาทำความรู้จักกับวิตามินซีกันเถอะ วิตามินที่ละลายในน้ำ ที่ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากการทานอาหาร โดยมากวิตามินซีจะอยู่ในกลุ่มของอาหารประเภทผักและผลไม้ชนิดต่าง ๆ รวมถึงยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายได้อีกด้วย ความสำคัญของวิตามินซี ✔เป็นส่วนประกอบสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย เช่น การผลิตคอลลาเจนช่วยในการสมานแผล เป็นส่วนประกอบของกระบวนการผลิต carnitine และสารสื่อประสาทบางชนิด ✔ช่วยลดการทำงานของอนุมูลอิสระ ลดความเสื่อมถอยของเซลล์ ✔ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานของเม็ดเลือดขาว (white blood cell) เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ✔มีบทบาทต่อกระบวนการเมตาบอลิซึมของกรดอะมิโนและคาร์โบไฮเดรต ✔ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก โดยเฉพาะธาตุเหล็กจากพืช ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ✔ช่วยลดการระคายเคืองที่เยื่อบุทางเดินหายใจ ลดการจาม น้ำมูกไหล หรือลดอาการบวมแดง ผื่นบริเวณผิวหนังได้ ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวันของคนไทย ✔ผู้ชาย 100 มิลลิกรัมต่อวัน…
เครื่องปรุง เป็นวัตถุดิบสำคัญที่ขาดไม่ได้เมื่อปรุงประกอบอาหารไม่ว่าจะเป็นผัด ทอด นึ่ง ย่าง ล้วนแต่ต้องใช้เครื่องปรุง อย่างเกลือ ซีอิ๊วขาว ซอสจิ้มต่างๆ เพื่อช่วยชูรสชาติของอาหารให้มีความอร่อยและน่าทานมากขึ้น การทานอาหารที่ปรุงประกอบด้วยเครื่องปรุงเหล่านี้จะทำให้เราได้รับ “โซเดียม” เข้าไปในร่างกายเพิ่มขึ้น โดยโซเดียมนั้นเป็นแร่ธาตุที่มีประโยชน์กับร่างกายหากได้รับในปริมาณที่พอดี และเนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จึงต้องได้รับจากการรับประทานอาหารเข้าไปเท่านั้น หน้าที่ของโซเดียมคือการรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย ช่วยปรับสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย ช่วยควบคุมการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อให้เป็นไปตามปกติ ใน 1 วัน เราควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2000 มิลลิกรัม หรือเทียบเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชา โดยโซเดียมพบได้บ้างในอาหารตามธรรมชาติ หรือในเครื่องปรุงรสอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว และยังพบแฝงในอาหารกล่องแช่แข็ง อาหารแปรรูป ของหมักดองต่างๆ และอาหารประเภทขนมปัง ขนมอบ ซึ่งมีการใช้ผงฟู หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต เพื่อให้ขนมขึ้นฟู ตัวอย่างปริมาณโซเดียมในเครื่องปรุง เกลือป่น…
ปรับสมดุลการขับถ่ายกับโพรไบโอติก อยากมีสุขภาพลำไส้ที่ดี ควรทำอย่างไร? เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วนะคะว่าการที่จะมีระบบการขับถ่ายที่ดีนั้น จะต้องกินผักผลไม้เป็นประจำ เพื่อให้ได้รับใยอาหารที่เพียงพอ และต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะทำให้สุขภาพลำไส้ดีขึ้น แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงนั่นก็คือ จุลินทรีย์ หรือโพรไบโอติกส์นั่นเองค่ะ รู้มั้ยว่า…โพรไบโอติกส์คืออะไร ? โพรไบโอติกส์ (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ยังมีชีวิต และให้ประโยชน์แก่ร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ประจำถิ่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งโพรไบโอติกส์นี้จะช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหารให้ทำงานเป็นปกติ หากมีสุขภาพดีก็จะมีสมดุลจุลินทรีย์เป็นปกติ แต่ถ้าหากมีสิ่งไปรบกวนสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกาย เช่น การกินน้ำตาลมากเกินไป การใช้ยาปฏิชีวนะเกินจำเป็น เป็นต้น จุลินทรีย์เหล่านี้จะถูกรุกราน อาจเกิดผลกระทบตามมาได้ เช่น ท้องผูก ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นต้น บทบาทของโพรไบโอติกส์ในร่างกายมีอะไรบ้าง? นอกจากโพรไบโอติกส์จะช่วยปรับสมดุลของระบบขับถ่ายแล้ว เมื่อในร่างกายของเรามีโพรไบโอติกส์ที่ยังมีชีวิตในปริมาณที่มากเพียงพอ จะมีส่วนช่วยสร้างเกาะปกป้องเยื่อบุลำไส้ ส่งผลให้สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ฉวยโอกาสที่ทำให้ก่อโรคได้ สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มทำงานเป็นไปตามปกติ และช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยบรรเทาความผิดปกติต่างๆของร่างกายได้…
การมีสุขภาพดีปราศจากโรคภัยไข้เจ็บนั้น นับว่าเป็นที่ต้องการของทุกคน แต่ในปัจจุบันจำนวน ผู้ป่วย ที่ป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือที่เรียกว่า “NCDs” (Non-Communicable Diseases) ได้แก่ โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ฯลฯ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งโรคเหล่านี้กลายเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของคนไทย โดยพบว่าปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคเหล่านี้มาจาก พฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม คือ การมีโภชนาการเกิน ผิดสัดส่วน และกินอาหารประเภท หวาน มัน เค็ม ในปริมาณมากอย่างต่อเนื่องจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองและครอบครัวอย่างจริงจัง เพื่อลดความเสี่ยงใน การเกิดโรค “NCDs” เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการลดเจ้า 3 ตัวร้าย คือ “หวาน มัน เค็ม” “หวาน” หมายถึง “น้ำตาล”ที่อยู่ในอาหาร ขนม…
หนึ่งในประเด็นที่คนกังวลใจมากที่สุดอย่างหนึ่งในการทานอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ อย่าง อาหารมังสวิรัติ หรือ อาหารเจ คือ การกลัวว่าจะได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ แต่รู้หรือไม่คะว่าการทานพืชผักและธัญพืช ก็ทำให้ได้โปรตีนเพียงพอ ได้กรดอะมิโนจำเป็นที่สมบูรณ์ได้เช่นเดียวกัน ข้อกังวลใจนี้อาจมาจากที่ว่าโปรตีนจากพืชมีกรดอะมิโนบางอย่างที่อาจพบว่าขาดหรือมีน้อยในพืชบางชนิด ได้แก่ ไลซีน เมไธโอนีน และลิวซีน แต่ไม่ต้องกลัวไปค่ะ เพราะด้วยการทานโปรตีนพืชจากแหล่งที่หลากหลายจะทำให้คนทานมังสวิรัติ สามารถได้รับโปรตีนคุณภาพที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนไม่ต่างจากคนที่ทานโปรตีนจากสัตว์ แต่อาจต้องทานด้วยเทคนิคเล็กน้อยค่ะ เคยได้ยินไหมคะว่า ควรทาน ข้าว + ถั่ว + งา ผสมกัน เหตุผลก็เป็นเพราะว่า ในข้าว ในถั่ว และในงานั้น มีกรดอะมิโนบางอย่างที่อาหารอีกอย่างไม่มี หรือพูดง่ายๆว่า การทานร่วมกันจะเป็นการชดเชยส่วนที่อาหารอีกอย่างไม่มีได้นั่นเอง ตัวอย่างแหล่งโปรตีนจากพืช ถั่ว หลากสี เช่น ถั่วแดง ถั่วขาว…
รูปแบบของการใช้ “ Healthy Plate Method” เป็นวิธีที่จะช่วยให้เรากินอาหารแต่ละหมวดหมู่ได้อย่างเหมาะสมตามสัดส่วนที่ควรจะเป็น เพราะโดยปกติแล้ว การกินสารอาหารบางอย่างในปริมาณที่มากหรือน้อยจนเกินไปนั้น ไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย เช่น การบริโภคแป้งที่เป็นคาร์โบไฮเดรตมากเกินพอดี หรือ ทานผักที่มีใยอาหารวิตามินแร่ธาตุน้อยเกินไป และที่สำคัญวิธีที่สามารถใช้ได้กับทั้งคนที่มีสุขภาพดีทั่วไป หรือ แม้แต่คนที่เป็นโรคเบาหวาน เพราะจะทำให้ช่วยควบคุมปริมาณการทานข้าวแป้งได้เป็นอย่างดี สัดส่วนการทานจานอาหารสุขภาพนี้ เราจะทำการแบ่งจานอาหารของเราออกเป็น 3 ส่วนหลัก โดยเริ่มต้นให้แบ่งจานออกเป็นครึ่งหนึ่งก่อน โดยครึ่งหนึ่งของจานให้เป็นผักใบเขียวและผักหลากสีต่างๆ อีกครึ่งหนึ่งให้แบ่งเป็นอย่างละ ¼ โดยให้เป็นคาร์โบไฮเดรตไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ควินัว โฮลวีตและธัญพืชต่างๆ เป็นต้น และ ¼ ส่วนสุดท้ายให้เป็นโปรตีนคุณภาพดีไขมันต่ำ เช่น โปรตีนจากถั่ว เทมเป้ เต้าหู้ เป็นต้น นอกจากนี้เราอาจเลือกทานผลไม้เพิ่มได้ในปริมาณที่พอเหมาะ…
อยากมีสุขภาพลำไส้ที่ดี ควรทำอย่างไร? เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วนะคะว่าการที่จะมีระบบการขับถ่ายที่ดีนั้น จะต้องกินผักผลไม้เป็นประจำ เพื่อให้ได้รับใยอาหารที่เพียงพอ และต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะทำให้สุขภาพลำไส้ดีขึ้น แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงนั่นก็คือ จุลินทรีย์ หรือโพรไบโอติกส์นั่นเองค่ะ รู้มั้ยว่า…โพรไบโอติกส์คืออะไร ? โพรไบโอติกส์ (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ยังมีชีวิต และให้ประโยชน์แก่ร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ประจำถิ่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งโพรไบโอติกส์นี้จะช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหารให้ทำงานเป็นปกติ หากมีสุขภาพดีก็จะมีสมดุลจุลินทรีย์เป็นปกติ แต่ถ้าหากมีสิ่งไปรบกวนสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกาย เช่น การกินน้ำตาลมากเกินไป การใช้ยาปฏิชีวนะเกินจำเป็น เป็นต้น จุลินทรีย์เหล่านี้จะถูกรุกราน อาจเกิดผลกระทบตามมาได้ เช่น ท้องผูก ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นต้น บทบาทของโพรไบโอติกส์ในร่างกายมีอะไรบ้าง? นอกจากโพรไบโอติกส์จะช่วยปรับสมดุลของระบบขับถ่ายแล้ว เมื่อในร่างกายของเรามีโพรไบโอติกส์ที่ยังมีชีวิตในปริมาณที่มากเพียงพอ จะมีส่วนช่วยสร้างเกาะปกป้องเยื่อบุลำไส้ ส่งผลให้สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ฉวยโอกาสที่ทำให้ก่อโรคได้ สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มทำงานเป็นไปตามปกติ และช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยบรรเทาความผิดปกติต่างๆของร่างกายได้ เช่น…